ที่ต่างประเทศโซนยุโรปบอกเลยว่า “เป็นกันเพียบ” ครับ สำหรับโรคอ้วน ประเทศไทยเราก็กำลังตามมาติดๆนะครับ เพราะฉะนั้น เดี๋ยวเราไปดูกันว่ามีอาการยังไง และจะสามารถรักษายังไงได้บ้างครับ

อาการของ โรคอ้วน

การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น: หากคุณเริ่มสังเกตเห็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน หรือการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ อาจเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ภาวะโรคอ้วน
  • การสะสมไขมันในบางจุด: ไขมันมักสะสมบริเวณท้อง สะโพก และต้นขา ซึ่งอาจทำให้ร่างกายดูไม่สมส่วน

รู้สึกเหนื่อยง่าย

  • เหนื่อยง่าย: การทำกิจกรรมประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันได หรือทำงานบ้าน อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือหอบง่ายมากกว่าปกติ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการเคลื่อนไหว
  • หายใจลำบาก: การมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้การหายใจลำบากขึ้น หรือบางครั้งอาจมีอาการหอบเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน

ปัญหาทางร่างกาย

  • ปวดข้อและกระดูก: น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดการกดดันที่ข้อเข่า ข้อสะโพก หรือกระดูกสันหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดข้อและการเคลื่อนไหวที่ลำบาก
  • เสื้อผ้าคับหรือไม่พอดี: เสื้อผ้าเริ่มคับและไม่พอดีกับรูปร่าง อาจมีอาการไม่สบายตัวจากการใส่เสื้อผ้าที่แคบ

การเปลี่ยนแปลงในอารมณ์

  • อารมณ์แปรปรวน: ความเครียดหรืออาการซึมเศร้าที่เกิดจากการไม่พอใจกับรูปร่างหรือการควบคุมอาหารที่ยากขึ้น
  • การวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มน้ำหนัก: บางคนอาจรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการควบคุมอาหารหรือรู้สึกไม่พอใจกับรูปร่างของตัวเอง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต

อาการนอนกรนและหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ

  • นอนกรน: คนที่มีน้ำหนักตัวเกินมักจะมีปัญหานอนกรน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea) ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่มีโรคอ้วน

การรักษา โรคอ้วน

การรักษาต้องใช้วิธีการที่ครอบคลุมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตอย่างถาวรเพื่อควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงที่เกิดจากโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เช่น เบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ และโรคข้อเข่าเสื่อม วิธีการรักษามีหลายแนวทางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายครับ

 

  1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
  • ลดปริมาณแคลอรี่ที่บริโภค: การลดปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนักได้ โดยควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีแคลอรี่สูง เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน และอาหารที่มีไขมันสูง
  • เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้: ผักและผลไม้มีไฟเบอร์สูงและแคลอรี่ต่ำ ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน และลดความอยากอาหาร
  • เลือกโปรตีนจากแหล่งที่ดี: เช่น ปลา ไก่ไม่ติดมัน ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ
  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปมักมีโซเดียม ไขมัน และน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้เพิ่มน้ำหนักได้ง่าย
  1. การออกกำลังกาย
  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น การเดินเร็ว การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือการว่ายน้ำ จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและช่วยลดน้ำหนัก
  • การฝึกความแข็งแรง (Strength training): การยกน้ำหนักหรือการฝึกความแข็งแรงช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกายแม้ในขณะที่พัก
  • การทำกิจกรรมที่สนุก: ค้นหากิจกรรมที่คุณชอบ เช่น การเต้นรำ การเดินป่า หรือการเล่นกีฬา เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่สนุกและไม่รู้สึกเบื่อ
  1. การบำบัดทางการแพทย์
  • การใช้ยาลดน้ำหนัก: ในบางกรณี การใช้ยาลดน้ำหนักที่ได้รับการอนุมัติจากแพทย์อาจเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากยาอาจมีผลข้างเคียง
  • การผ่าตัดลดน้ำหนัก (Bariatric surgery): สำหรับผู้ที่มีโรคอ้วนขั้นรุนแรงหรือไม่ได้ผลจากการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ การผ่าตัดลดน้ำหนัก เช่น การผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร หรือ การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร อาจเป็นตัวเลือกที่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การผ่าตัดนี้มีความเสี่ยงและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
  1. การควบคุมและจัดการกับพฤติกรรมการกิน
  • การสังเกตและบันทึกการกิน: การเขียนบันทึกอาหารจะช่วยให้คุณเข้าใจและระบุพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีและปรับปรุงพฤติกรรมเหล่านั้น
  • การให้คำปรึกษา (Counseling): การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ หรือจิตแพทย์สามารถช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการจัดการความเครียดที่อาจกระทบต่อน้ำหนัก
  1. การจัดการความเครียดและการนอนหลับ
  • การลดความเครียด: ความเครียดสามารถเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งสามารถทำให้เพิ่มน้ำหนักได้ ควรฝึกการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการหากิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด
  • การนอนหลับให้เพียงพอ: การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถส่งผลให้เกิดความหิวและเพิ่มน้ำหนักได้ ดังนั้นการนอนหลับให้เพียงพอจึงสำคัญต่อการควบคุมน้ำหนัก
  1. การติดตามผลการรักษา
  • การติดตามน้ำหนักและสุขภาพ: ควรมีการติดตามน้ำหนักและสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และปรับการรักษาหากจำเป็น การติดตามผลจะช่วยให้เห็นความคืบหน้าและทำให้คุณรักษาวินัยในการดูแลสุขภาพ

สรุป

การรักษาโรคอ้วนจำเป็นต้องใช้วิธีการที่ครอบคลุมและเป็นระยะเวลานาน ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการบำบัดทางการแพทย์ โดยต้องได้รับการสนับสนุนจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยครับ

สุดท้ายไม่อย่าให้โรคอ้วนเป็นหวยที่ต้องเจอเลยครับ ปล่อยให้เรื่องของหวย หรือ หวยไว เป็นเรื่องของ Globallotto ดีกว่าครับ 

ขายของนิดหน่อยนะครับ

เว็บหวยออนไลน์ Globallotto เราเป็นเว็บหวยถูกกฎหมาย มีใบอนุญาต และได้รับการรับรองจากหน่วยงานประเทศอังกฤษ และอเมริกา รวมถึงรัฐบาลฟิลิปปินส์ครับ

หวยทุกเลขไม่มีเลขอั้น สามารถยกเลิกได้ฟรี และไม่มีการลดอัตราจ่ายครับ ลองเข้ามาดูอัตราจ่ายก่อนได้ที่ Globallotto ครับ